วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ภาค 2 การแปรรูปยางแผ่นเครพ เพิ่มมูลค่าการขายได้จริงหรือ!!!!!

ยางแผ่นเครพทดสอบรีด 12 รอบความบาง
ยางแผ่นเครพทดสอบรีด 7 รอบความละเอียด

ยางแผ่นเครพที่สะอาด มาตรฐานส่งออก เป็นสิ่งที่โรงงาน STR20 ในไทยก็ต้องการเช่นกัน

                           จาก ภาค 1 การแปรรูปยางแผ่นเครพ เพิ่มมูลค่าการขายได้จริงหรือ!!!!! หลังจากทราบข้อมูลถึงวิธีการต่างๆในการส่งยางให้กับทางโรงงานผลิตยางแท่ง ว่ามีอุปสรรคหลายอย่างที่ทำให้เราโดนทางโรงงานผลิตยางแท่งกดราคา โดยมีการกำหนดรับซื้อยางเครพตากแห้งได้ไม่เกิน 85% บ้าง 88% บ้างแตกต่างกันออกไป ต่อให้ตากให้แห้งมากถึง 90% ขึ้นไปคุณก็สามารถขายได้แค่ไม่เกิน 88% ทีนี้บทความภาค 2 นี้ขอพูดถึงต้นตอทำไมโรงงานผลิตยางแท่งจึงใช้วิธีกดค่า DRC เราและทำไมจึงไม่นำยางเราเข้าห้องแล็บตรวจค่า DRC จากข้อมูลดังกล่าวผมได้ไปศึกษากรณีนี้กับทางโรงงานผลิตยางแท่งได้ความว่า จุดเริ่มต้นตั้งแต่มีวัตถุดิบประเภทยางแผ่นเครพเริ่มมาจากการส่งยางแผ่นเครพสดๆ 1-5 วัน เพื่อความรวดเร็วจึงกำหนดสเป็กการรับซื้อค่า DRC เป็นรายวันขึ้นมา และมาตรฐานการผลิตยางแผ่นเครพในไทยแทบไม่มีคุณภาพกันมากขึ้นทุกวันๆ ยางก้อนถ้วยที่จะนำมารีดเป็นแผ่นยางเครพก็สำคัญ ถ้าได้ยางก้อนถ้วยที่ผลิตเป็นถ้วยมาแล้วในวันแรกสามารถนำมาผลิตได้เลย คุณภาพยางแผ่นเครพก็จะสูง ในทางกลับกันถ้ายางก้อนถ้วยเก็บเอาไว้เป็นเวลานาุนแล้วนำมารีดเป็นแผ่นเครพคุณภาพยางก็จะต่ำลงไป เนื่องจากโรงงานผลิตยางเครพส่วนใหญ่ในบ้านเราจะมีเพียง Creper Machine เท่านั้น แต่ไม่มี Slab Cutter คือเครื่องสับยางก้อนถ้วยให้เป็นชิ้นย่อยแล้วลงล้างทำความสะอาดก่อนเข้าเครื่องรีดยางเครพ การคลีนความสะอาดจึงไม่ดีพอถ้านำเข้าเครื่องรีดเครพเพียงตัวเดียว แต่นั้นไม่ได้หมายถึงว่าทุกที่ต้องมีเครื่อง Slab Cutter เครื่องเครพสามารถแก้ไขและทำให้ยางแผ่นเครพเรามีมาตรฐานที่สูงได้คือ

1.ยางก้อนถ้วยยิ่งใหม่ยิ่งดีให้นำเข้าเครื่องรีดยางเครพเลย
2.ลูกกลิ้งต้องมีมาตรฐานในการฉีกเนื้อยางที่ดี โดยลายดอกของลูกกลิ้งต้องมีความคมมากๆ
3.การฉีดน้ำบนตัวเครื่องเครพ น้ำต้องสะอาดและมีความแรงพอสมควรยิ่งแรงยิ่งดียางจะสะอาดขึ้นมาก
4.จำนวนรอบทีรีด จำเป็นอย่างยิ่งต้อง 8 รอบขึ้นไป จำนวนรอบยิ่งเยอะก็ยิ่งทำให้ยางบางและสะอาด


ความหมายของคำว่ายางเครพบาง คืออะไร ยางแผ่นเครพที่มีความบางทำให้การฉีกเนื้อจากยางก้อนถ้วยซ้ำๆหลายๆรอบทำให้สิ่งสกปรกในยางก้อนถ้วยถูกขจัดออกไปเรื่อยๆจากการรีดหลายๆรอบ และสิ่งสำคัญคือ ยางแผ่นบางตากให้แห้งได้เร็ว รอบจำหน่ายก็จะเร็วขึ้น รอบเดือนก็ได้ปริมาณที่สูงขึ้นเช่นกัน แต่ถ้ายางแผ่นหนาใช้เวลาตากนานรอบจำหน่ายช้า รอบเดือนปริมาณต่ำ กำไรก็น้อยลงไปตาม 

เมื่อทำยางแผ่นเครพที่บางแล้ว มีหลายคนบอกว่าทำหนาทำบางโรงงานรับซื้อเท่ากัน ตามจริงไม่เป็นเช่นนั้นครับ ยกตัวอย่างเช่น ยางแผ่นหนาได้น้ำหนักความชื้น ใช้เวลาตาก 15 วัน ค่า DRC 86% หรือคาดคะเนให้ได้ไม่เกิน 88% ตามที่โรงงานกำหนด ฉนั้นใน 1 เดือนคุณส่งขายได้ 2 รอบเท่านั้น แต่ถ้ายางแผ่นบางใช้เวลาตาก 7 วัน ค่า DRC 86% แต่ไม่เกิน 88% ตามที่โรงงานกำหนดเช่นกัน ฉนั้นใน 1 เดือนคุณส่งขายได้ 4 รอบ กำไรจะสูงขึ้นชัดเจน และสามารถทดแทนค่าไฟค่าน้ำในจำนวนรอบที่รีดที่สูงขึ้นได้เช่นกัน 

มาตรฐานโรงงานยางเครพในประเทศจีน

ผลิตยางเครพจากวัตถุดิบแตกต่างกันไม่ควรนำมาปนกันคุณภาพผลิตออกมาเป็นยางแท่งทั้ง TSR CV60,TSR9710


                     แต่เมื่อถามว่าโรงงานรับซื้อด้วยการตีตามจำนวนวันและสายตา จำนวนวันยางเครพหนา 15 วัน กับจำนวนวันยางเครพบาง 7 วัน สีของแผ่นยางเครพไม่ต่างอะไรกัน แต่สำคัญค่า DRC ในเนื้อยางแผ่นบางจะสูงกว่าเยอะแน่นอน และถ้าโรงงานที่รับซื้อไม่สนใจว่าจะบางหรือจะหนา คงเป็นไปไม่ได้ การทำตลาดส่งยางขายสิ่งที่จำเป็นที่สุดคือการขอนัดเจรจาการรับซื้อ ไม่ใช่การโทรศัพท์ไปถามว่ารับหรือป่าว ถ้ารับแล้วไปส่งก็จบ ขอให้ขายของได้ก็พอ นั่นหมายถึงคุณเสียเปรียบการค้าทางโรงงานแล้ว ขั้นตอนการตกลงรับซื้อยางอันดับแรกคือต้องนัดหมายผู้มีอำนาจให้ได้เสียก่อน สิ่งที่ต้องเตรียมและประเด็น คือ

1. ตัวอย่างยางแผ่นเครพตามจำนวนวันที่เราตาก ที่เราต้องการส่งขาย
2. รับประกันตัวอย่างยางที่นำไปต้องสเป็กตามนี้
3. เจรจาขั้นตอนการส่งขาย กำหนดตามสเป็กตัวอย่างได้กี่เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าให้ดีมากๆขอเข้าห้องแล็บทุกครั้งที่ส่งมาขายเพื่อตรวจสอบค่า DRC จะแม่นขึ้นกว่ากำหนดตามสายตา
4. เมื่อตกลงกันได้แล้วต้องไม่มีการใช้เทคนิคในการเพิ่มน้ำหนักยาง และคุณภาพยางต้องเป็นไปตามที่ตกลง
5. กำหนดปริมาณที่ส่งขายโรงงานในแต่รอบ ในแต่ละเดือนให้ตรงตามที่ตกลงไว้ ทางโรงงานจะคำนวณการผลิตยางแท่งส่งออกได้ง่ายขึ้น และมีความแน่นอนของคุณภาพยางที่ดี
6. การชำระเงิน รับแบบไหน โอน เช็ค เงินสด
แห้งมากความชื้นเศษขาวๆเล็กๆ DRC 97%
แล็บตามความจริงความสะอาดผ่าน



ยางตาก 3 วันมาส่งขาย
แห้งบาง ผลแล็บออกมาผ่าน
แผ่นหนาขึ้นมาแต่ลายแผ่นยังคงเป็นเครพ



เศษขี้ยางมารีดตากแห้งบางจะออกมาดำคุณภาพออกเป็นแท่งก็ตกลงตามไปด้วย
แผ่นตากในร่มประมาณ 7 วัน
แผ่นตากในร่มไม่ตากแดดประมาณ 5 วัน



                      






                        ทางเราจะทราบถึงคุณภาพยางแผ่นเครพได้ดี เนื่องจากทำตลาดส่งออกยางประเภทยางแผ่นเครพมาโดยตรง และทราบถึงผลแล็บการนำวัตถุดิบประเภทไหนจำนวนกี่วันส่งออก หลายๆคนที่หันจากการทำยางแผ่นดิบ แผ่นรมควัน มาทำยางแผ่นเครพจากยางก้อนถ้วย เพราะง่ายกว่าเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าจะละเลยคุณภาพยางแผ่นเครพ เพราะสารพัดเทคนิคในการส่งขาย หรือบางรายรีดเสร็จแล้วให้นำไปแช่น้ำก่อนขึ้นตาก หรือส่งขายเลยจะได้กำไรมากกว่า คุณอาจจะได้กำไรตามที่คุณคิดจริง แต่....ความยุติธรรม ความยั่งยืนยางแผ่นเครพก็จะไม่เกิดและโรงงานก็ต้องใช้วิธีกดค่า DRC ไว้ไม่ให้ขาดทุน บางรายรีดยางเครพไม่ฉีดน้ำทำความสะอาดคุณภาพยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ทุกวันนี้ยางแผ่นเครพบ้านเรา ไม่ได้ออกมาเป็นลายแผ่นเครพแล้ว เป็นเหมือนยางบดรีดน้ำออกเฉยๆแต่ความสกปรกยังคงมีอยู่อีกเยอะแยะ ฉนั้นการนำไปผลิตยาง STR20 ผลแล็บมันจะตรวจสอบอย่างละเอียดถ้าไม่ผ่านก็ต้องวนอนุกรมกลับมาเข้าเครื่องเครพตัวที่ 1 ของโรงงานยางแท่งอีกค่าใช้จ่ายค่าไฟก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นที่มาของคำว่าโรงงานยางแท่งกดค่า DRC ถ้าไม่แก้ไขต้นทางก็คงไม่มีความยั่งยืนหรือความยุติธรรมเกิดขึ้นเลย 


ตัวอย่าง Certificate SVR10 ของเวียดนามที่ไทยก็จะเป็น STR20 ค่า Dirt Po PRI Moonney มีผลจากคุณภาพวัตถุดิบจากยางก้อนถ้วยและยางแผ่นเครพทั้งสิ้น

ยางแผ่นหนาเมื่อเก็บเข้าโกดังจะมีเชื้อโรคสิ่งสกปรกเพิ่มขึ้นมาคุณภาพไม่ผ่าน

ยางแผ่นหนาเก็บไว้นานๆจะเป็นก้อนแกะไม่ออกต้องใช้เครื่อง Slab Cutter ขนาดใหญ่สับเท่านั้น

โรงงานยางแท่งในไทยที่หาดใหญ่ ทำแผ่นเครพเช่นกันมีมาตรฐานผ่าน
เครื่องเครพแท้ของมาเลเซียให้ดูจากเกียร์ก็พอทราบ
ยางออกมาแห้งสีสม่ำเสมอกันสวยทุกแผ่น สะอาดทุกแผ่น
แยกตากราวเป็นรุ่นๆของวันที่รีดชัดเจนมีมาตรฐานระบบการจัดการ


          สุดท้ายนี้ต้องการให้โรงงานที่ทำยางเครพทำมาตรฐานยางแผ่นเครพให้เกิดและหันหน้าหาโอกาสเข้าไปประชุมนัดคุยกับโรงงานผลิตยางแท่งใกล้ๆพื้นที่ของท่านให้เกิดระบบการรับซื้อที่ยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ไม่เช่นนั้นการแปรรูปยางเครพก็จะไม่เพิ่มมูลค่าได้ตามวัตถุประสงค์และสุดท้ายก็จะไม่ต่างอะไรกับขายยางก้อนถ้วยนั่นเอง

www.facebook.com/noel.kaham

ผู้แชร์ประสบการณ์

N OK PLUS Co.,Ltd.

Tel : 080 3883029

Line ID : nokrubberland

E-mail : marketing.nokplus@gmail.com




วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ภาค 1 การแปรรูปยางแผ่นเครพ เพิ่มมูลค่าการขายได้จริงหรือ!!!!!

การรีดยางแผ่นเครพ เพิ่มมูลค่ายางได้จริงหรือ


                 บทความนี้ทำขึ้นมาเนื่องจากได้มีการถกเถียงกันเป็นวงกว้างว่า การลงทุนทำโรงงานรีดยางเครพ แปรรูปจาก ยางก้อนถ้วยให้เป็นยางแผ่นเครพ ยังสามารถเพิ่มมูลค่าในการขายได้เหมือนช่วงแรกๆหรือ ป่าว บทความนี้จึงทำขึ้นมาเพื่อช่วยกันเสนอความคิดเห็นแง่คิดให้กับหลายๆฝ่ายที่กำลังตัดสินใจจะลงทุนทำโรงงานผลิตยางเครพกันอยู่ หรือว่าทำขายยางก้อนถ้วยง่ายๆ ไม่ต้องเปลืองแรงหรือเปลืองค่าไฟในการผลิต แต่ปัญหามันติดขัดที่อยู่ตรงไหน ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นส่วนตัวตามนี้นะครับ

ยางก้อนถ้วยแห้งDRC 73% ไม่เกิน
ยางแผ่นเครป DRC 97% 

               
      VS





                     
                      อย่างที่ทราบกันดีว่า ยางก้อนถ้วย วิธีการทำยางถ้วย สามารถผลิตออกมาได้ง่ายกว่าการทำยางชนิดอื่นๆ เดิมทีก็นำยางถ้วยนี้บรรทุกขนกันไปส่งขายที่โรงงานยางแท่งในพื้นที่ใกล้เคียงต่างๆ จากนั้นโรงงานรับซื้อยางก้อนถ้วย ด้วยการตีเปอร์เซ็นต์ยางหรือค่า DRC จากยางที่มาส่งด้วยการตีค่า DRC ด้วยสายตา โดยวิเคราะห์จากจำนวนมีดที่กรีด วันที่ค้างคืน กำหนดกันเป็นสเป็กๆเลยว่า ยางมีดเท่านี้ ค้างคืนเท่านี้รับซื้อในราคาเท่าไหร่ นั้นคือ วิธีการของพ่อค้าคนกลางมาซื้อ แต่ไม่เหมาะสมเป็นวิธีการของโรงงานยางแท่งจะรับซื้อด้วยวิธีนี้ ไม่สมราคาการเป็นโรงงานยางแท่งซักเท่าไหร่ มีทั้งไลน์ผลิตที่ใหญ่ และห้องแล็บวิจัยชนิดของยางและรวมไปถึงตรวจค่า DRC ได้ด้วย เครื่องมือพร้อมแต่ไม่นำมาใช้เพื่ออะไรกัน สาเหตุมาจากอะไร
ยางก้อนถ้วยเป็นชั้นๆไม่หยดกรดฟอร์มิคเจือจาง

               วิธีที่ตรวจสอบของโรงงานที่ดูมีเหตุมีผลมากขึ้นอีกระดับหนึ่งก็คือ การสุ่มยางจากลูกค้าที่เอามาส่งเป็นคันรถ (ไม่ให้เราเลือกเองด้วยนะเจ้าหน้าที่ต้องเลือกเองดูยุติธรรมสุดๆ) แล้วนำมารีดยางที่เครื่องเครพโดยการรีดฉีดน้ำ 5-6 รอบ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออก แล้วปิดน้ำรีดอีก 5-6  รอบคือรีดแห้ง รวมแล้ว 10-12 รอบแล้วนำมาคำนวณตีเปอร์เซ็นต์ วิธีนี้ก็เอาเปรียบตามฟอร์ม

               วิธีต่อมา คือ โรงงานรับซื้อยางไม่ว่าจากชาวสวนหรือพ่อค้าคนกลางทั่วๆไป ก็มีการสุ่มเอายางก้อนถ้วยเข้าไปแล็บในห้องวิจัย บางที่ห้ามเข้าไปดูด้วยอีกต่างหาก (อยุติธรรมตามระเบียบเค้า) แต่ไม่เป็นที่นิยมกัน สาเหตุจากไม่อยากให้รู้ค่า DRC ที่แท้จริง และยางก้อนถ้วยเอาไปแล็บใช้เวลานานกว่าแล็บยางแผ่นเครพนิดหน่อย เท่านั้นครับ

ยางก้อนถ้วยผ่าออกมานับได้ 8 มีด 12 วัน


                 วิธีสุดท้ายของการนำยางก้อนถ้วย ตรวจค่า DRC คือนำยางเข้าผลิตเป็นยางแท่ง STR20 ออกมาทั้งหมด สำหรับผู้ที่มียางถ้วยส่งมาไม่เยอะไม่ค่อยมีใครอยากทำให้ ส่วนพ่อค้าคนกลางแบบเฉพาะกาล (รู้จักกับโรงงาน) จะนำเข้าผลิตไลน์ STR ให้ แต่ต้องเป็นลูกค้าขาประจำที่มีจำนวนยางเยอะๆในการส่งขายแต่ละรอบถึงคุ้มค่ากับการรอและผลิตให้ วิธีการแบบนี้คงต้องซี้กับโรงงานสุดๆ เท่าที่เห็นมายังไม่เคยเจอกับตาการหาค่า DRC ด้วยวิธีนี้ในเมืองไทย ถ้าผู้ใดมีกรุณาแจ้งด้วยครับ ถ้าไม่แจ้งก็หมกเม็ด กะเกิดคนเดียว

                  ฉนั้นการรับซื้อยางก้อนถ้วยของโรงงานยางแท่งจึงเป็นที่ชื่นชอบที่สุดเพราะสามารถกันและกดค่า DRC ได้เต็มที่ โดยใช้เหตุผลที่ว่า มีต้นทุน เช่น ค่าผลิต ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าขนส่ง ค่าเงินเดือนพนักงาน และที่สำคัญฮิตเป็นที่ติดปากคือ ยางคุณสกปรก ยิ่งถ้ายางก้อนถ้วยตากแห้งนานๆก็หาว่ายางคุณตายราคาตก สารพัดที่สรรหามาครับ สรุปเป็นใครๆก็ชอบกับการรับซื้อยางก้อนถ้วย ได้ใช้วิชามารง่ายกว่าโกงค่า DRC เห็นๆแบบมีอำนาจเงินรับซื้อถ้าขายก็ไม่ง้อซื้อ ผู้ที่ทำยางถ้วย จึงไม่มีทางเลือกกำเงินดีกว่า กำขี้ยางกลับบ้าน เลยส่งผลกระทบให้กับยางเครพทั้งทางตรงและทางอ้อมยังไงมาฟังต่อครับ

สุ่มเลือกยางถ้วยเข้าแล็บ
                  ยางเครพที่ใครหลายๆคน บอกกันมาตลอดว่าเพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบจากยางก้อนถ้วย ถามว่าจริงมั๊ย ผมกล้าฟันธงว่าเพิ่มได้จริง แต่ที่ทำไมคนทำโรงงานยางเครพทุกวันนี้ถึงบอกว่าขาดทุนกัน มันมีหลายปัจจัยที่ต้องมาช่วยกันวิเคราะห์ดังนี้


                  1. วิธีการรับซื้อยาง ก็คือการรับซื้อยางก้อนถ้วย ของผู้ผลิตยางเครพในพื้นที่ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดและกระทบการทำยางเครพขายด้วย เพราะถ้าเกิดยางก้อนถ้วยในพื้นที่ กรีดยางจำนวนมีดที่ต่ำ หรือแค่ 2-3 มีดก็ทำให้ความชื้นในยางก้อนถ้วยสูง แต่ผู้ผลิตยางเครพกับไปซื้อยางก้อนถ้วยในราคาเท่ากับคนที่กรีดยาง 4-5 มีด เพราะอย่างลืมว่า การกรีดยางเค้ากรีด 2 วันพัก 1 วันเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งจำนวนมีดกรีดที่เยอะย่อมทำให้ค่า DRC ในยางถ้วยสูงตามไปด้วย และสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ การหยดกรดฟอร์มิคเจือจาง ลงไปในแต่ละมีดก็สำคัญเหมือนกัน เพราะกรดฟอร์มิคจับยางให้แข็งเป็นตัวช่วยเร่งไล่น้ำกับความชื้นออกทุกๆครั้งในแต่ละมีดที่กรีด จึงเป็นปัจจัยหลักในการรับซื้อยางก้อนถ้วยมากๆ รวมไปถึงการตีเปอร์เซ็นต์ซื้อยางก้อนถ้วย ถ้าไม่แม่นด้วยสายตา ก็ใช้เครื่องเครพของเราให้เป็นประโยชน์สามารถหาค่า DRC เบื้องต้นได้ แต่ก็ไม่ชัวร์ 100% ก็ยังดีกว่าตีด้วยสายตาครับ
สุ่มยางคละๆกันไปตามความชื้น
               2. ความชื้น อย่างที่ทุกคนทราบกันดีการทำยางเครพช่วยไล่ความชื้นและน้ำในยางก้อนถ้วยออกมาในระดับหนึ่ง ที่แน่ๆ การทำแบบนี้ช่วยอะไรได้บ้าง คือ
               2.1 ช่วยให้เราทราบถึง % ยางหรือค่า DRC หลังจากรีดเป็นแผ่นเครพแล้วได้มากกว่ายางก้อนถ้วย โดยคาดคะเนง่ายขึ้น แต่ไม่ถึงกับชัวร์ 100%
               2.2 จากการรีดน้ำออกจากยางก้อนถ้วย คือ ช่วยในเรื่องค่าขนส่งในการส่งไปขายที่โรงงานแน่นอน 
               2.3 ช่วยทำให้ยางก้อนถ้วยเรา รีดออกมาเป็นแผ่นเครพ สะอาด ขจัดสิ่งสกปรกในเนื้อยางได้ดี และไม่ต้องโดนคนรับซื้อมาบ่นว่ายางสกปรก หรือไม่มีคุณภาพ
ยางก้นถังหรือยางเตาหู้ DRC ต่ำกว่ายางถ้วย
         
            ฉนั้นให้คำนวณเรื่องค่าขนส่ง จากการนำยางก้อนถ้วยที่ไปส่งขายโรงงานกับยางแผ่นเครพขนส่งไปขายโรงงานเช่นกันว่า แตกต่างกันเท่าไหร่ต่อกิโลกรัมแล้วนำมาเปรียบเทียบดูครับ
               
         
รถ 12 ล้อ@ลาวบรรทุกได้เต็มที่ 30 ตัน

         
         
ยางที่ผ่านการรีดร้อนและอบจากเตามาแล้ว


   

         

       
                     
              

         3. คุณภาพในการส่งขาย ยางแผ่นเครพย่อมมีคุณภาพที่สูงกว่ายางก้อนถ้วยแน่นอน จากการรีดยางก้อนถ้วยในระหว่างรีด ได้บีบและเค้นน้ำกรด เปลือกไม้ เศษดิน เศษทรายออกในเบื้องต้น ย่อมทำให้ยางแผ่นเครพมีมาตรฐานในการเป็นวัตถุดิบที่ดีกว่ายางก้อนถ้วย ตามหลักการราคาย่อมสูงกว่าแน่นอน (แต่ราคาน่าจะสูงขึ้น กลับไม่สูงตามที่คิดไว้เดี๋ยวผมจะอธิบายตอนท้ายๆ)


รถ 12 ล้อตู้คอนเทนเนอร์ในตัว บรรทุกได้เต็มพิกัด 30 ตัน
         4. ราคาซื้อราคาขาย หลายฝ่ายคงเข้าใจกันว่าราคายางก้อนถ้วย 100% ในตลาดกลางเป็นราคาที่รับซื้อทั้งยางก้อนถ้วยและยางแผ่นเครพ ซึ่งถูกต้องครับ แต่ทำไมจึงคิดกันว่าในเมื่อราคาเดียวกัน ราคาต้องเท่ากันซิ ทำยางก้อนถ้วยส่ง ก็ได้ราคายาง 100% เหมือนยางแผ่นเครพ แล้วจะทำยางแผ่นเครพไปทำไม เรื่องนี้ผมมีคำตอบให้ครับ
                   4.1 อย่างที่ทราบ อธิบายไปในข้อ 2.2 เรื่องค่าขนส่งมันย่อมต่างกันในเรื่องของผลกำไรอยู่แล้ว ยิ่งยางแผ่นเครพแห้งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้กำไรสูงขึ้นเท่านั้น เพราะบรรทุกความชื้นไปน้อยกว่ายางที่รีดใหม่และยางก้อนถ้วยที่มีความชื้นสูงมาก ส่วนใหญ่รีบรีดเครพแล้วรีดส่งขาย ผลกำไรก็จะสูงกว่ายางก้อนถ้วยนิดหน่อยเท่านั้น ในเรื่องของขนส่ง
                   4.2 จากเหตุผลในบทความนี้ตอนต้นๆ การนำยางก้อนถ้วยไปส่งขายที่โรงงานยางแท่งย่อมไม่ทราบถึงค่า DRC ที่แน่นอน แล้วคุณเชื่อมั่นได้ยังงัยว่าจะได้ราคายางก้อนถ้วย 100% ตามที่ประกาศไว้ ข้อนี้ยางแผ่นเครพ ได้เปรียบกว่ายางก้อนถ้วยเห็นๆเวลาส่งขาย
ยางเครพเฉลี่ย 84%อบในผ้าใบเหนียวติดกัน
                   4.3 การส่งยางแผ่นเครพไปขาย วิธีการหาค่า DRC ยังทำได้ง่ายกว่ายางก้อนถ้วยและโรงงานจะช่วยแล็บแผ่นเครพให้เรามากกว่ายางถ้วยด้วย โดยการนำยางแผ่นเครพเข้าแล็บ นำไปรีดร้อนเข้าอบในเตา (ดูจากบทความที่แล้วตามลิงค์ http://rubbercrepe.blogspot.com/2014/06/blog-post_28.html ) ใช้เวลาในการหาค่า DRC 3-4 ชั่วโมง จะทราบค่า DRC ผลออกมาไม่ถึงกับชัวร์ 100% แต่ก็ใกล้เคียง ดีกว่าการนำยางก้อนถ้วยไปขายกว่าเป็นไหนๆ

เครื่องเครปรีดร้อน ใช้ความร้อนในการระเหยความชื้น
เข้าเตาอบในอุณหภูมิที่ 115 องศาตามมาตรฐานยางแท่ง
                        5. การวางระบบเงินหมุนเวียน คือ การรับซื้อ เข้าผลิต จำนวนวันตาก ส่งขาย วนกลับมารับซื้อ เข้าผลิต จำนวนวันตาก ส่งขาย ในระหว่างตากในแต่ละชุด จำเป็นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อยางก้อนถ้วยสม่ำเสมอ กำหนดวันที่ตากให้ DRC สูงให้มากที่สุด (ขึ้นอยู่กำลังเงินหมุนเวียนของแต่ละคน)  และนำส่งไปขาย คำนวณระยะเวลาการขนส่งไปขายกี่วัน สรุปค่า DRC จากแผ่นเครพที่ขายเมื่อไหร่ รับเงินวันไหน จำเป็นอย่างยิ่งในการทำโรงงานยางเครพ เพราะจากประสบการณ์โรงงานเครพที่เวียงจันทน์ทราบถึงปัญหาการหมุนเวียนในการซื้อ ผลิต ขาย ถ้าไม่ดี ย่อมทำให้ปริมาณยางต่อเดือนและรายได้ไม่คงที่ และเนื่องจากราคาตลาดแต่ละวันไม่คงที่ด้วยแล้ว ยิ่งจะคอนโทนยากขึ้น

            6. ราคาตลาดยาง หลายคนอาจจะตั้งคำถามมาว่า ในเมื่อตากยางในระยะเวลานานๆแล้ว ทำให้เสี่ยงในการส่งขายในแต่ละรอบ เรื่องนี้มีทางแก้ของมันในเรื่องของการทำตลาดล่วงหน้า การล็อกราคากับโรงงานยางแท่ง ซึ่งเป็นเทคนิคของเฉพาะผู้ติดต่อการทำตลาดและส่งขายเข้าโรงงานยางแท่งเป็นขาประจำกันจึงจะสามารถทำการล็อกราคาได้ แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงในการตากยางแผ่นเครพไว้หลายๆวัน ก็สามารถส่งขายได้เลย แต่จะได้กำไรในส่วนของค่าขนส่งสูงกว่าการส่งยางก้อนถ้วยน้อยลงไปตามความชื้นที่มีอยู่

  
               นั้นก็คือเหตุผลที่ยางแผ่นเครพยังคงมีมูลค่าที่สูงกว่าการส่งขายยางก้อนถ้วย ถ้าคุณสามารถทำตามข้อ 1-4 ได้คุณจะเห็นความต่างของการทำยางก้อนถ้วยกับยางแผ่นเครพชัดเจน แต่ปัญหาอีกอย่างและหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือ โรงงานยางแท่งที่รับซื้อยางแผ่นเครพเราครับ อย่างที่ทราบกัน ราคาตลาดกลางมีบอก ราคาหน้าโรงงานก็บอกตามนั้นดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ อย่ามองแต่ราคายาง 100% แต่ละวันเป็นหลัก แต่ให้มองเรื่องค่า DRC จริงๆ (บางคนส่งยางเครพมาเป็นปียังไม่เคยรู้ค่า DRC ของตัวเองจริงๆซักครั้งจริงมั๊ยครับ) จากการส่งขายยางแผ่นเครพด้วย ว่า ตรงตามกับความเป็นจริงของยางแผ่นเครพเราจริงๆหรือเปล่า ถ้าโรงงานยางแท่งบริสุทธิ์ใจที่จะรับซื้อยางเครพในเปอร์เซ็นต์ยางเครพเราตามความเป็นจริงจะไม่เกิดปัญหา ที่ว่า ราคายางเครพ กับ ยางก้อนถ้วย กำไรไม่ต่างกัน เด็ดขาด การที่ทำให้ยางเครพมีปัญหาเรื่องราคาเพราะ การรับซื้อยางก้อนถ้วยมีโอกาสกดค่า DRC ได้ง่ายกว่ายางแผ่นเครพนั้นเอง อย่างที่บอก โรงงานผลิตยางแท่งใครๆก็ชอบครับ ยางก้อนถ้วยเพราะสามารถผลิตยาง STR ได้กำไรที่ดีกว่ารับซื้อยางวัตถุดิบอย่างยางแผ่นเครพเสียอีก จริงเท็จแค่ไหนก็สามารถดูจากราคาขายยางแท่งของแต่ละโรงงานมันแทบไม่เหลือเลย ราคาส่งขาย FOB ท่าเรือกรุงเทพในแต่ละวัน ห่างจากราคายางก้อนถ้วย 100% ไม่กี่บาท ง่ายๆคือความบาลานซ์ราคาวัตถุดิบกับราคาโปรดักส์ส่งออก ไม่บาลานซ์กันเห็นๆ จึงทำให้เราโดนกดค่า DRC อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าเกิดเป็นไปตามนี้จริง แล้วเราจะหาวิธีแก้ไขยังงัย เรื่องนี้คงต้องกลับไปแก้ไขกันดูในแต่ละพื้นที่เพราะกฎเกณฑ์ข้อระเบียบของแต่ละโรงงานยางแท่งในไทยไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเจอโรงงานเอกชนแต่ราคายาง 100% ต่ำกว่านิดหน่อยแต่ได้ค่า DRC ตามความเป็นจริงก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยนะครับ

               
เข้าชั่งน้ำหนักที่โรงงานเอกชนจีน จงอูรับเบอร์ 

น้ำหนักที่ชั่งได้ปริ๊นออกมาเป็นเอกสารยืนยัน

เย็นมากแล้วคงลงไม่ทัน จอดเก็บไว้ก่อน

เอายางลงหมดแล้ว 2 คัน 50 ตัน DRC 86% ที่ขายได้ตามจริง

คันนี้ 28 ตัน DRC 83% ขนลงโกดังแถวชายแดนรอโควต้าจีนเปิด

ส่งโรงงานเอกชนจีนยูนนานรับเบอร์ 2 คัน เกือบ 60 ตันเครพ DRC 86%

อีกชิปเม้นส่งที่ โรงงานยูนนานเช่นกัน 28 ตัน DRC 86% 

ของลงโรงงานจงอูรับเบอร์คันที่ 3 รวม 78 ตัน DRC 87%

ส่งโรงงานยูนนานรับเบอร์ 26 ตัน DRC 89% 


**หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ทำลายชื่อเสียงโรงงานใด เพียงแค่ต้องการบ่งชี้หลักของการค้าเพื่อเสถียรภาพของราคายางพาราที่ถูกหลักวิธีการและเป็นการเสนอความคิดเห็นในทัศนคติส่วนตัวเท่านั้น**


สามารถติดตามประวัติการทำงานบริษัทและราคาตลาดเซี่ยงไฮ้ SHFE ได้ที่ Facebook 
www.facebook.com/noel.kaham

  ผู้แชร์ประสบการณ์   

N OK PLUS Co.,LTD.

Line ID : nokrubberland

Tel Thai : 080 3883029

Tel Laos : +856 20 59508555

Email : marketing.nokplus@gmail.com

Email : oatrmx@hotmail.com

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อนาคต เครพขาว สู่สินค้า ที่มีคุณภาพระดับสูง

เครพขาว

           หลายๆคนอาจจะรู้จักเครพขาว เป็นอย่างดีแล้ว เพราะก่อนจะมีเครพน้ำตาลที่ผลิตจากยางก้อนถ้วยทุกวันนี้ ได้มีวัตถุดิบประเภทเครพขาวมาก่อนนานแล้ว แต่ความต้องการของตลาดน้อยมากและนำไปทำอย่างอื่นแทนจึงไม่เป็นที่นิยมผลิตกัน เพราะอย่างที่ทราบกันดีเครพขาวผลิตมาจากน้ำยางสด หรือ ยางเต้าหู้ มาเข้าเครื่องเครพรีดออกมาเป็นแผ่น เหมือนเครพทั่วๆไปทุกประการ สุดท้ายยางเอาไปผลิตเป็นยางแท่งอะไรบ้าง เดี๋ยวผมยกตัวอย่างให้ดูแบบง่ายๆ

ยางก้อนถ้วย -------> ยางเครพน้ำตาล-------> ยางแท่ง STR20

ยางก้อนถ้วย
ยางแผ่นเครพน้ำตาล


                             





ยางแท่ง STR20
นำภาพถ่ายยางแท่งจากโรงงานที่จีนมาก่อนสีใกล้เคียงกัน ตามจริงจะคล้ำกว่านี้

น้ำยางสด,ยางเต้าหู้ -------> ยางเครพขาว-------> ยางแท่ง STR5 

น้ำยางสด
(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ยางแผ่นเครพขาว
(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)










ยางแท่ง STR5L,STR5
 ในรูปคือ STR5L (ทำจากน้ำยางสดโดยตรง) ถ้าทำจากยางเครพขาวจะเป็น STR5 สีคล้ำลงไปนิดหน่อย (ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
             ปัจจุบันนี้โรงงานยางแท่งในประเทศไทย จะเป็นโรงงานที่ผลิตยางแท่ง STR20 กันเป็นส่วนใหญ่จึงมีความต้องการรับซื้อยางก้อนถ้วย และยางเครพน้ำตาลเป็นหลัก ทำให้ชาวสวนยางที่เปิดกรีดใหม่ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ นิยมผลิตยางก้อนถ้วยขึ้นมา เพราะกำลังการซื้อยางจากโรงงานผลิตยางแท่งในไทยมีกำลังที่สามารถซื้อในปริมาณที่สูงได้เนื่องจากราคาที่ไม่สูงมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับยางวัตถุดิบชนิดอื่นๆ ถ้าเรามองย้อนไปถึงสมัยก่อนชาวสวนยางส่วนใหญ่จะเริ่มต้นผลิตด้วยการทำยางแผ่นดิบ USS ยางแผ่นรมควัน RSS แต่เนื่องจากตลาดรับซื้อยางประเภทนี้เริ่มมีออเดอร์ส่งออกน้อยลงเรื่อยๆ บวกกับปริมาณยางภายในไทยสูงขึ้นทุกปี ทำให้การรับซื้อยางแผ่นดิบ แผ่นรมควัน ก็น้อยตามไปด้วย ปัจจุบันตลาดส่งออกที่รับซื้อยางแผ่นรมควันที่นิยมและได้ราคาดีๆก็จะเป็น ญึ่ปุ่น เกาหลี และจีน อีกทั้งการผลิตยางแผ่น USS RSS ต้องใช้ฝีมือพอสมควรในการผลิต เช่น ความสวยของแผ่น ความสะอาด ขนาดที่ได้มาตรฐาน และการอบรมควัน ก็ต้องใช้ความสามารถสูง ชาวสวนยางใหม่ๆยุคสมัยนี้จึงโฟกัสไปที่ยางก้อนถ้วยขายให้กับโรงงานยางแท่ง STR20 เป็นหลัก ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงงานผลิตยางแท่ง ย่อมเปิดการรับซื้อยางได้ไม่จำกัดจำนวนมีเท่าไหร่เอาหมด เพราะยางแท่งเบอร์ STR20 ก็เป็นยางที่ผู้ใช้ยางรายใหญ่ที่สุดในโลก คือ ประเทศจีน มีความต้องการสูงมาก จึงเกิดโรงงานยางแท่ง STR20 ขึ้นเยอะแยะในหลายๆปีที่ผ่านมา มีทั้งโรงงานยางแท่งที่ได้มาตรฐาน และขาดมาตรฐานหลายๆอย่างก็มี จึงทำให้ชาวสวนยางที่ผลิตยาง USS RSS หันมาผลิตยางก้อนถ้วยส่งเข้าโรงงานมากขึ้นทุกปีๆ

              เนื่องจากความง่ายในการทำยางก้อนถ้วย ผู้ส่งขายยางก้อนถ้วยก็ส่งขายไปตีเปอร์เซ็นต์ตามมีดที่กรีด วันที่ค้างคืน (ง่ายๆคือตีด้วยสายตา) ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าคนกลางเข้าซื้อนำไปส่งขายต่อที่โรงงานยางแท่งอีกที ทำให้การตีเปอร์เซ็นต์ในการซื้อจากชาวสวนยางไม่มีความยุติธรรมเกิดขึ้น เพราะตีเปอร์เซ็นต์จากสายตา ไม่มีห้องแล็บวิจัยค่า DRC ถึงแม้ว่าจะมีห้องแล็บก็สุ่มยางก้อนถ้วยไม่กี่ก้อนมาแล็บหาค่า DRC ก็ใช่ว่าจะแม่นทั้งหมดเพราะไม่ได้เช็คยางทั้งกองทั้งคันรถ ยกเว้นโรงงานยางแท่งไหน ยินยอมให้ขึ้นไลน์ผลิตออกมาเป็นยางแท่งทั้งหมดนั้นคือค่า DRC ที่แม่นยำที่สุด จึงมีการเปลี่ยนแปลงจากยางก้อนถ้วยได้พัฒนาแปรรูปมาเป็นยางแผ่นเครพนั้นเอง ทำให้การคำนวณค่า DRC ง่ายขึ้นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

ตัวอย่างการสุ่มยางหาค่า DRC 

ยางก้อนถ้วยที่สุ่มมาจากยางทั้งกอง เลือก แห้ง กลาง เปียก เพื่อหาค่าเฉลี่ย DRC



 ยางแผ่นเครพทั้งแห้งทั้งเปียกนำชั่งน้ำหนักเพื่อตรวจสอบหาค่า  DRC 

นำยางก้อนถ้วยออกไปรีดเครื่องเครพ แล้วนำมาเข้าเครื่องรีดร้อนเพื่อบดระเหยความชื้นให้มากที่สุด ส่วนยางแผ่นเครพสามารถเข้าเครื่องรีดร้อนได้ทันทีเลย จนยางไล่ความชื้นออกให้มากที่สุด

หลังจากรีดร้อนให้แผ่นฉีกออกเป็นแผ่นบางๆ มากให้ที่สุด แล้วนำเข้าเตาอบ ออกจากเตาจากรูปด้านขวาบนยางยังสุกไม่หมดยังมีคราบความชื้นที่เป็นสีขาวๆ ปนอยู่ ต้องนำเข้าเตาอบต่อจำยางสุกทั้งหมด


ตัวอย่างยางที่อบจากเตาสุกทั้งหมดแล้ว นำมาชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบจากน้ำหนักยางก่อนเข้าแล็บ 

              จากขั้นตอนแล็บเพื่อตรวจหาค่า DRC ถ้ายางเหมือนกันทั้งกองหรือทั้งคันรถที่มาส่งก็ถือว่าการแล็บในครั้งนี้แม่นยำ แต่เป็นไปไม่ได้ที่ยางก้อนถ้วย รวมไปถึงยางแผ่นเครพจะมีความชื้นที่เท่ากันและสม่ำเสมอทั้งหมด จากการแล็บแค่ 2-5 กิโลกรัมนี้ทราบค่า DRC ได้แม่นยำแต่จะไปรวมว่ายางก้อนถ้วยและยางแผ่นเครพทั้งหมดจะออกมาเหมือนกัน โดยจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนได้ลองสุ่มตัวอย่างมาทั้งหมด 5 ชุด แต่ละชุดค่า DRC ไม่ตรงกันและบางชุดไม่เฉียดเปอร์เซ็นต์ไล่ๆกันเลย จึงสรุปได้ว่าเป็นการตรวจสอบหาค่า DRC ที่ไม่แม่นยำเลย ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบไม่ก็เสียเปรียบไปเลย แล้วการทำการค้าในระยะยาวๆก็คงไม่เกิด เพราะเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วถึง 2 โรงงานใหญ่
           



                       ทีนี้มาพูดถึงยางแท่ง STR5 บ้าง โรงงานที่ผลิตยางแท่งใหญ่ๆจะมีไลน์ผลิตยางทั้ง STR20 กับ STR5 ด้วยจะเป็นโรงงานยางแท่งที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งถามว่าทางโรงงานยางแท่งนี้รับซื้อน้ำยางสด หรือเครพขาว หรือป่าว คำตอบคือ รับซื้อ แต่เป็นปริมาณที่น้อยมาก จะมีการสั่งซื้อเข้ามาผลิตเป็นยาง STR5L STR5 ก็ต่อเมื่อทางโรงงานมีออเดอร์การสั่งซื้อจากลูกค้าเท่านั้น จึงจะซื้อเข้ามาผลิต แต่โรงงานยางแท่งระดับนี้ส่วนใหญ่ในยุคนี้จะมีสวนยางเป็นของตัวเองบ้างแล้ว จึงไม่นิยมที่จะรับซื้อจากภายนอกเข้ามาอีก (ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่างโรงงานไหนบ้างเพราะรู้ๆกันอยู่) จึงเป็นที่มาของคำว่าตลาดยางเครพขาวแคบนี้เอง และประการสำคัญทั้งปวงทำไมน้ำยางสดจึงไม่เป็นที่นิยมนำมาทำเครพขาว ต้องขออธิบายว่า ยางพารา หรือ Natural Rubber ยางธรรมชาติ ไม่ใช่มีแต่ ยางแท่ง ยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน แต่ยังมียางอีกประเภทเกิดขึ้นมา คือ น้ำยางข้น ที่มีความต้องการในตลาดมากเช่นกันจึงทำให้น้ำยางสดในบ้านเราหันไปผลิตเป็นน้ำยางข้น 60% ซึ่งเอาไปแปรรูปเป็น ถุงมือทางการแพทย์ ถุงยางอนามัย จุกนมยาง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่>>>>>น้ำยางสดที่นำมาผลิตเป็นน้ำยางข้น 60% ต้องมีน้ำยางสดที่ได้มาตรฐานซึ่งนั้นก็หมายถึง พันธุ์ยางที่ปลูก อายุต้นยางที่เปิดกรีดต้องไม่น้อยกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือ  ต้นยางพาราที่เริ่มเปิดกรีดปีที่ 1 จนถึง ปีที่ 5 ยังไม่สามารถนำมาผลิตน้ำยางข้น 60% ได้มาตรฐานนั่นเอง แต่ก็ถือว่าโรงงานน้ำยางข้น 60% ก็ถือว่าเป็นในวงการยางที่ตอนนี้เริ่มแพร่หลายตั้งแต่ภาคใต้บ้านเราเป็นที่แรก (ซึ่งก็หลายปีแล้ว) เพราะได้แรงอิทธิพลตลาดรับซื้อน้ำยางข้นมาจากมาเลเซียนั่นเอง และนี้ก็เป็น 1 ในอนาคตของวงการยางพารา จากยางแผ่นสู่----->ก้อนถ้วย----->เครพน้ำตาล----->เครพขาว----->น้ำยางข้น



                  จากข้อมูลข้างบนได้อธิบายเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของยางพารามาเป็นลำดับ แต่ที่สำคัญอื่นใดก็คือ ช่วงระยะเวลาไหนควรจำเป็นผลิตยางชนิดไหน ตลาดส่งขายแบบไหนที่คุ้มต่อการลงทุน และช่วงไหนตลาดโลกมีความต้องการยางอะไรมากน้อยเพียงใด จึงเป็นเรื่องของการตัดสินใจในการเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปแบบผลิตยางไปตามตลาดโลกนั่นเอง

                    ผมได้คาดการณ์จากแนวทางการทำตลาดของตนเองที่ประเทศจีนมาซักระยะหนึ่งแล้ว เรื่องน้ำยางข้นจึงตัดออกไปเลย เพราะทางจีนยังมีความต้องการยางประเภทนี้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำยางข้นต้องนำเข้ามาจีนเสียมากกว่า แต่ตลาดยางพาราในจีน จะเน้นรับซื้อไปประเภทยางแท่งเบอร์ต่างๆ ยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน และยางวัตถุดิบประเภทยางเครพน้ำตาล ยางเครพขาว เป็นต้น จึงได้นำมาเสนอราคา ตลาดรับซื้อยางในประเทศจีนมาเปิดเผยให้รู้ว่า เราสมควรที่จะทำยางอะไรต่อกันดี ในเมื่อ ยางเครพน้ำตาลกำไรไม่ต่างอะไรกับขายยางก้อนถ้วย ยางแท่งเบอร์ STR20 ราคาในตลาดโลกตกต่ำลงไปมาก ก็เลยทำให้เป็นผลพ่วงราคายางวัตถุดิบ ยางก้อนถ้วยและเครพน้ำตาล ตกต่ำตามไปด้วย

                    ผมจะยกตัวอย่างราคายางแท่งจากรูปภาพ จะมีราคายางแท่งของประเทศเพื่อนบ้านเราด้วยจะเห็นได้ว่าราคายางแท่ง STR20 บ้านเราแพงที่สุดและแพงกว่ามาเลเซียเสียด้วย


ราคารับซื้อยางที่จีนเซี่ยงไฮ้ CIF ท่าเรือชิงเต่า (ราคานี้ไม่ได้เสียภาษีนำเข้าเอง) ราคาเป็น USD

                 จากตารางราคายางตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม - วันที่ 20 มิถุนายน 2014 จะมีการสั่งซื้อยางเข้าของรัฐบาลจีนจากหลายประเทศ ได้แก่ STR20 (ไทย) SMR20 (มาเลย์) SIR20 (อินโด) SVR3L (เวียดนาม) RSS3 (ยางแผ่นรมควันคุณภาพชั้น 3) จะเห็นได้ว่าราคายางไทยจะสูงที่สุดในนี้ ส่วนของเวียดนามไม่มียางเบอร์ SVR20 จะมีต่ำสุดคือ SVR10 เท่านั้น แต่ความต้องการของโรงงานรัฐบาลจีนตอนนี้ที่ต้องการมีแค่ 5 รหัส ณ ตอนนี้ 

ยกตัวอย่างราคา STR20 ล่าสุด วันที่ 20 มิถุนายน 2014 ราคาคือ 1,775 USD/Ton 
Exchange Rate 1 USD = 32.478 บาท 

ราคารับซื้อ CIF ท่าเรือชิงเต่า = 1,775 ดอลล่าร์ = 57,648 บาท = 57.64 บาท/กิโลกรัม 
ราคาส่ง FOB ท่าเรือกรุงเทพ = 55.41 บาท/กิโลกรัม
ราคายางก้อนถ้วย 100% วันที่ 20 มิถุนายน = 51 บาท/กิโลกรัม

                  ฉนั้นเมื่อนำมาหักลบจะมีส่วนต่างอยู่ที่ 6.64 บาท/กิโลกรัม ซึ่งยังไม่ใช่กำไรสุทธิยังต้องนำมาหักค่าใช้จ่าย เช่น ค่าแรงงาน ค่าไฟฟ้าผลิตยางแท่ง ค่าขนส่งรถ ขนส่งเรือ ประกันภัย ค่าCess คงเป็นไปได้ยากที่จะมีกำไรเหลือ นอกเสียจากทางโรงงานยางแท่ง STR20 ไม่ได้ให้ราคายาง 100% ที่แท้จริงเท่าที่ประกาศในเว็บไซด์ ก็สารพัดเทคนิคที่ขุดกันขึ้นมาเรื่องกดค่า DRC นี้แหละครับ จึงทำให้มีกำไรเหลือพอที่จะส่งไปขายถึง CIF ได้ ถึงแม้จะส่ง FOB กทม. ก็ยังมีค่าไฟฟ้า แรงงาน ขนส่งรถไปท่าเรืออีก จึงไม่มีทางที่โรงงานยางแท่งจะรับซื้อยาง 100% ตามที่คาดไว้
                     
                   แต่ไม่ใช่ไม่มองถึงราคาขายตลาดล่วงหน้านะครับ ถ้าส่งแบบขายล่วงหน้า 1 เดือนขึ้นไป ก็สามารถทำได้ครับ แต่โรงงานดังกล่าวต้องมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับลูกค้าโดยตรง และส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานใหญ่ระดับมาตรฐานสากล เท่านั้นที่ทำการตลาดขายกันอยู่ทุกวันนี้ ตามออเดอร์ที่ทางจีนสั่ง ฉนั้นจะต้องมีโรงงานยางแท่งในไทยที่เป็นโรงงานเล็กๆทำขายต่อให้โรงงานใหญ่ หรือทำส่งออกเองแต่ราคาขายไปจีนก็ไม่สูงนักถ้าเทียบกับโรงงานใหญ่ๆ จากข้อมูลนี้ ถ้าถอยออกมามองภาพรวมๆ แล้วชาวสวนยาง พ่อค้าคนกลางทั่วไป และโรงงานผลิตเครพเล็กๆ จะเป็นผู้รับความเสี่ยงไว้แต่เพียงผู้เดียว เพราะโรงงานยางแท่งจะขาดพ่อค้าคนกลางบางรายไม่ได้ ยังต้องอาศัยปริมาณป้อนยางเข้าโรงงานและมีผลประโยชน์เอื้อต่อกันเสมอ จึงเป็นความได้เปรียบผู้ซื้อ แต่เสียเปรียบคือผู้ขายนั้นเอง 

ข้อมูลราคาขายของยางแท่งเบอร์ต่างๆปริมาณและราคาเป็นเงินหยวนต่อตัน ของโรงงานรัฐบาลจีนให้กับ บริจสโตน ฮันกุ๊ก โยโกฮาม่า เป็นต้น


                   มาถึงเป้าหมายหลัก ของผู้เขียนบทความนั่นก็คือการผลิตยางเครพขาว จากข้อความข้างบนไม่จำเป็นต้องไปหาตลาดขายให้เมื่อยตุ้ม หรือถ้ามีตลาดเองก็ยินดีด้วยครับ แต่ก่อนอื่นตอนนี้ทุกพื้นที่ตั้งแต่ภาคตะวันออก ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน และภาคเหนือ จะเป็นการผลิตยางก้อนถ้วยเป็นส่วนใหญ่ คงต้องอาศัย พาวเวอร์ เส้นสาย หรือสวนยางส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงรับซื้อยาง จากยางก้อนถ้วยทยอยมาเป็นน้ำยางสดแทน เพราะการหาค่า DRC จากน้ำยางสดแม่นยำ และง่ายกว่าการซื้อขายยางก้อนถ้วย  ชาวสวนยางก็จะได้ขายยางจากต้นยางของตนเองคุ้มค่ากับที่เหนื่อยปลูก เหนื่อยกรีดยางมา และผู้ซื้อก็จะได้สบายใจในการซื้อว่าไม่โดนยัดไส้หรือตีเปอร์เซ็นต์ผิดพลาดทำให้ขาดทุนย่อยยับเช่นกัน การรับซื้อน้ำยางสดสามารถศึกษาได้จาก google ได้ครับ หรือว่างๆไปดูงานรับซื้อน้ำยางที่หาดใหญ่ ภาคใต้บ้านเรานี้เองก็ได้ (ผมแนะนำได้) 
                   
                    การรับซื้อน้ำยางสด รับซื้อทุกวันจ่ายเงินทุกวัน ส่วนผู้ขายกรีดยางทุกวันรับเงินทุกวันเช่นกัน และไม่ต้องกลัวว่าจะได้กำไรน้อยกว่าขายยางก้อนถ้วยไม่มีทางแน่นอน เพราะคุณได้ขาย DRC ของคุณตามความจริง ตามพันธุ์ยางที่คุณปลูกมานั่นเอง โดยตามหลักของน้ำยางสดแล้ว จะมีค่า DRC อยู่ในเกณฑ์ 28%-33% แล้วแต่สายพันธุ์ยางและจำนวนปีที่กรีด (รวมถึงปุ๋ยด้วยนะครับ) แต่เราจะไม่เดากันอีกต่อไปเหมือนการซื้อ-ขายยางก้อนถ้วยกัน เอาเข้าเตาอบไมโครเวฟเลย 1-2 นาทีทราบผลทันทีว่าได้กี่เปอร์เซ็นต์นำมาคูณกับราคายาง 100% ที่รับซื้อวันนั้นทันที ยุติธรรมกันทั้งสองฝ่าย ผู้รับซื้อนำมาผลิตเป็นเครพขาวสามารถคำนวณต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น ราคาขายปลายทางที่แน่นอน ความเสี่ยงในการลงทุนก็จะน้อยตามไปด้วย
                     
                     มาถึงหัวใจสำคัญของโครงการผลิตยางแผ่นเครพขาวกันแล้ว นั้นก็คือตลาดส่งขายสำหรับผู้ที่ยังไม่มีตลาดส่ง การริเริ่มในครั้งแรกเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับผู้จะลงทุน เพราะการทำยางเครพขาวก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจให้ดีๆว่า การขายยางส่งออกไปต่างประเทศมันจะต้องมีการเปิด LC ซึ่งการทำสัญญาซื้อขายประเภทนี้ ต้องเป็นสินค้าที่พร้อมนำไปผลิตแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ยางล้อรถ เลยจึงสามารถทำสัญญาซื้อขายดังกล่าวได้ แต่ยางแผ่นเครพขาวนี้จัดอยู่ในกลุ่มยางวัตถุดิบนำไปเข้าขั้นตอนผลิตเพิ่มเติมเป็นยางแท่ง ฉนั้นการทำตลาดส่งออกยางประเภทวัตถุดิบ หรือเครพขาวนี้ จึงเป็นการส่งไปขายยังโรงงานยางแท่งเหมือนๆกับส่งยางภายในประเทศนั้นเอง แต่แตกต่างตรงที่ส่งออกไปขายยังต่างประเทศเองโดยตรง โดยยึดถือหลักสัญญาซื้อขายประเภทวัตถุดิบของบริษัทเราเป็นหลัก ในสัญญาระบุรับซื้อยางจากบริษัท N OK PLUS ทุกครั้งที่นำเข้าโรงงานรัฐบาลจีน ไม่มีตีกลับหรือราคาตกลงเมื่อล็อคราคาขายแล้ว จะยึดถือราคาสูงสุดให้กับลูกค้าที่ทำสัญญากับโรงงานเป็นอันดับแรก ถ้าผิดข้อตกลงดังกล่าวทางเราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายในการนำยางไปส่งได้ทุกๆกรณี  

                        ทางบริษัทเรากำลังมองหานายทุนเพียง 1 รายเท่านั้น ที่สามารถทำโครงการผลิตยางเครพขาว ส่งออกไปขายรายแรก หรือรายเดียวในประเทศไทย โดยการให้ทางบริษัทเราเป็นฝ่ายการตลาดขายให้ รวมไปถึงให้คำปรึกษาการทำงาน ตั้งแต่ต้นจนจบขายปลายทาง โดยการส่งออกในปริมาณขั้นต่ำ 100 ตัน ต่อการส่งขาย 1 รอบ ซึ่งเป้าหมายเบี้องต้นคือ 500 ตันต่อเดือน จากปริมาณดังกล่าวใช้เงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบค่อนข้างสูงมาก ซึ่งต้องอาศัยผู้มีทุนทรัพย์เยอะ ที่สำคัญต้องสนใจอย่างจริงจัง มาร่วมผลักดันให้โครงการนี้สำเร็จและเป็นมาตรฐานการส่งออกยางประเภทวัตถุดิบกัน ทางบริษัทเราพร้อมทำสัญญาการเป็นฝ่ายการตลาดให้กับนายทุนอย่างสุดความสามารถ 

                         สำหรับรายย่อยที่จะร่วมโครงการนี้กับทางบริษัทเรา ก็สามารถทำได้เช่นกัน รวมหลายๆเจ้าก็เป็นปริมาณที่สูงพอควรในการส่งออกได้ ในครั้งแรกต่อให้ได้ปริมาณขั้นต่ำที่ 30 ตันก็สามารถส่งออกไปขายได้กำไรเช่นกัน ไม่ปิดกั้นและไม่มองข้ามสำหรับผู้สนใจแต่ทุนทรัพย์น้อย ยินดีที่จะร่วมโครงการนี้ทุกคนครับ 

รูปบรรยายกาศการทำงานเมื่อปี 2013@โรงงานรัฐบาลจีน

ทางเข้าโรงงานเห็นข้างในน่ามีสนามเตะบอล
หลังโรงงานผลิตช่องเก็บยางของใครของมัน
เก็บรายละเอียดยางตกหล่นทุกจุดก่อนเปลี่ยนผลิตยางของลูกค้ารายอื่น
กะบะใส่ยางก่อนเข้าอบซีกยางก้อนยางเครพ
ด้านหลังเตาอบสองเตาใหญ่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง



เตาอบอีกซีกสำหรับยางแท่งผลิตจากน้ำยางสด

รางเทน้ำยางสดเพื่อใส่กรดจับให้แข็งตัว
ทีมงานนั่งกลุ้มใจกับเชือกฟางที่สั่งห้ามมีเด็ดขาด



ปัญหาไม่ใช่แค่เชือกฟางยางอบอยู่ในผ้าใบคลุมกระบะเป็นเวลานานยางเหนียวติดกันเป็นตังเม 
โชคดีมีฝนช่วยทำให้ยางเอาลงง่ายขึ้นนิดหน่อย
กลายเป็นพ่อบ้านเก็บเชือกฟาง ^ ^


เอายางลงกะบะเตรียมเข้าเตาอบ

พี่ช้างยืนดูพนักงานเก็บเศษเชือกฟาง อย่างหล่อ
ยางกองนี้ส่งมาได้ยังงัยโคตรเน่าเลย





ยางเต้าหู้โดนรถเหยียบ คงไม่อยากเสียค่าบรรทุกแพงเลยเหยียบมาก่อน อิอิ

ยางสารพัดแหล่งที่มา แยกออกจากกันชัดเจน
ยางแห้งกับยางเปียกสุดท้ายได้ TSR20 เหมือนกัน



ความมหึมา Slab Cutter หยาบ เครื่องนี้ใหญ่จริงๆเห็นฟันสับแล้วคนหลุดเข้าไปมีหวังไม่เหลือ

พนักงานไม่เคยเจอยางแถวร้อนชื้นมันเหนียวอีหลี
นั่งรอนั่งนับกะบะแรกๆที่มากลัวกะบะยางหาย 555

กะที่ 3 เที่ยงคืนไปแล้ว ยังขยันนั่งรอสถิติที่ทำไว้ 48 ชม.ไม่หลับไม่นอน

ยางเครพเราเอามาทดสอบเข้าเครื่องดายน์
ยางกองไกลๆนู่น ยางสัญชาติลาว คั่กๆ



เข้าสู่กะเช้า วนมากะที่ 1 เป็นเวลาอยากกินโจ๊ก ปาท่องโก๋มาก หากินยากมั่กๆ

เจอพิษสงยางเหนียวๆจากลาวขอข้ามเครื่องสกรูเลย 55
ยางไม่กี่ก้อนหลังจากอบแล้วทำไมมันเหนียวจั่งซี่




อันนี้ชอบที่ซู้ดงานแรกจบ รีบเก็บเงินสดเลย อยากจะรู้ว่าโรงงานรัฐมีเงินสดอ่ะป่าว

นี่งัยเชือกฟางตัวปัญหาเกือบโดนหักเงิน แทบกราบเลย
ไลน์ผลิตแถวที่ 1 ยังมีข้างๆอีกแถวนะผลิตโคตรไวเลย


รถบรรทุกยางเครพจอดรอแถวชายแดน กลุ่มรถคนจีนขับ

นี่ก็เตรียมเข้าจีน กลุ่มรถคนลาวไม่ถูกกันด้วย
นี่อีก2คันกำลังโหลดขึ้น พวกเดียวกันกับคันแรก



ต้องจอดรอหน้าโรงงานที่ลงยางเต็ม กลุ่มรถจีน-ลาว แย่งกันลงของ - -

เดินหาที่ลงของนี่งัยช่องนึง ทำไมไม่ให้ลง
สรุปรถคนจีนมันได้ลงก่อนเพราะมันคือเจ้าถิ่น 555



เจ๊หมวยคนนี้หน้าที่คือชั่งน้ำหนักทั้งวันทั้งคืน

ใบเสร็จโอนเงินล้านกว่าหยวนหายไปกรูตายสถานเดียว
เช็คยอดเงินเข้าบัญชีของอีกบริษัทอันนี้เข้าตรงเป๊ะ



ต้องจ้างโดยเฉพาะมาผ่ายางเอาเชือกฟางนรกออก - -

นี่งัยลุงหมอนเอ็กซิมบอกแล้วว่าไม่ต้องมัดเชือกฟางมา
นี้ผมเองแรกๆคิดว่าไม่เท่าไหร่แกะซะหน้าดำเลย 555



นี่ล่ามแปลภาษาจีนเป็นลาวมีน้ำใจลงช่วยด้วยแต่ค่าจ้างเท่าเดิมเห็นมันบ่นๆ 

ไม่ใช่งานหมูๆแล้วมันเหนียวได้ใจดีจริงๆ
หมดปัญญาเอาลงต้องใช้โฟร์คลิฟท์ขึ้นเคลียร์



ตะขอเกียวลงทุนออกไปสั่งทำเลยนั่นหน่ะ
กองนี้เสร็จแล้วภูมิใจในตัวเองและทีมงานสำเร็จซักที
ยางอบไม่สุกต้องเข้าเครื่องดายน์ให้มันสุกอีกที


ยางเหนียวๆจากลาวมาถึงช่วงสุดท้ายเจออุดตันเข้าให้

ช่างเครื่องเอายางออกมายาวเป็นงูเลื่อยเลยเก่งจริงๆ
หาวิธีแก้ไขและจะได้ไม่ต้องแกะเอาพลาสติกปูหัวดีนะนี่


เปิดบัญชีในจีนโอนแบงค์กิ้งให้ทางบริษัทได้เลย
ใบจดน้ำหนักหลังอบแล้วขึ้นชั่งนี้แหละเนื้อยางชัวร์ๆ



                   














                       สุดท้ายนี้ ทางเรายินดีพาผู้ที่สนใจเดินทางศึกษางานถึงสถานที่จริง ก่อนการตัดสินใจในการลงทุน ตั้งแต่ตัวอย่างโรงงานผลิตยางเครพที่เวียงจันทน์ การรับซื้อยาง การผลิตยางให้ได้คุณภาพ การแนะนำเครื่องจักรกลที่มีมาตรฐาน การขนส่ง การเสียภาษีอากร เอกสารส่งออก การนำยางเข้าจีน ค่าโควต้านำเข้าจีน จนถึงปลายทางตลาดที่ขายเข้าโรงงาน ทุกขั้นตอน อยากทราบรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ อีกติดต่อมาได้ที่.....

สามารถติดตามประวัติการทำงานบริษัทและราคาตลาดเซี่ยงไฮ้ SHFE ได้ที่ Facebook 
www.facebook.com/noel.kaham

ผู้แชร์ประสบการณ์จริง

N OK PLUS CO.,LTD.

Tel : 080 3883029

Line ID : nokrubberland

email : marketing.nokplus@gmail.com

email : oatrmx@hotmail.com